บทความ

ในยุคที่ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีนก้าวเข้าสู่เวอร์ชัน 3.0 (ACFTA 3.0) ธุรกิจเทคโนโลยีไม่สามารถยืนเดี่ยวได้อีกต่อไป
“ความร่วมมือ” ระหว่างภาครัฐและเอกชนคือหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนนโยบายและกฎระเบียบให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล การเข้ามาของนักลงทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศกำลังเปิดทั้งโอกาสและความท้าทายให้ผู้ประกอบการไทย
ดร. ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL
ได้แสดงความคิดเห็น ในการเสวนาและแลกเปลี่ยนความเห็นงานสัมมนา "Upgraded FTAs ขยายโอกาสการค้าภายใต้การยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA 3.0) และการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (Upgraded ATIGA)"
ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

"ในยุคของ ACFTA 3.0 การพัฒนาด้านเทคโนโลยี การเขียนกฎระเบียบ ต้องอาศัย “ความร่วมมือ” ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน

ภาคเอกชนนำเสนอเทคโนโลยีและทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาครัฐมีหน้าที่ตรวจสอบ

ผมเชื่อว่าการร่วมมือกันจะเป็นนิมิตหมายที่ดี"

"ในส่วนของการทำธุรกิจ ทุกคนรวมถึงต่างชาติจะวิ่งหาที่ที่ภาษีน้อยที่สุด

สิ่งสำคัญคือ เราจะพัฒนาสิ่งที่เรามีอยู่อย่างไรเพื่อให้ไม่ตกขบวน

ผมเห็นเอกชนหลายที่เริ่มปรับตัวเพื่อรับต่างชาติที่เข้ามา

หาประโยชน์และสร้างธุรกิจที่เกาะติดเทรนด์ ACFA 3.0"

"เราต้องคิดกลับกันด้วย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของต่างชาตินำมาต่อยอดธุรกิจ

ไม่ว่าจะเป็นด้านโซเชียลมีเดีย หรือ Ai

เทคโนโลยีคือการเปิดใจ และหาสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจเรา ว่าให้ประโยชน์อย่างไร

แต่สิ่งที่ต้องระวัง เป็นจุดอันตรายของเทคโนโลยีคือ การใช้แล้วเลิกไม่ได้

เพราะเมื่อถึงจุดที่มีการขึ้นราคา จะทำให้เราไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ จึงควรหาวิธีจัดสรรให้ดี"

"ผมเชื่อว่า ดิจิทัลหรือไอทีไม่ใช่ทางเลือก แต่คือทางรอด

การพัฒนาเทคโนโลยีให้ดี ต้องใช้ความร่วมมือกัน

การใช้เทคโนโลยีเป็นการจุดเริ่มต้น และหนทางไปข้างหน้ายังอีกไกล

เราสามารถทำตามและนำมาปรับใช้ให้เหมาะ ให้ได้ผลประโยชน์กับเรา

จะช่วยให้เราเป็นผู้ประกอบการที่ดำรงอยู่และพัฒนาต่อไปในอนาคตได้

สิ่งที่จะเห็นในอนาคตมากขึ้น คือ การเข้ามาของต่างชาติ

สามารถมองได้หลายมุม จึงต้องหามุมที่ตัวเราเองได้ประโยชน์และอยู่รอดในโลกธุรกิจได้"